นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
บริษัท ยัง ซันส์ จำกัด และบริษัทในเครือ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามของบริษัท เอไอเอ จำกัด (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) มีความมุ่งมั่นในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ (รวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล (รวมเรียกว่า “การประมวลผลข้อมูล”) ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทจึงออกนโยบายฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงสิทธิ หน้าที่ และเงื่อนไขต่าง ๆ เกี่ยวกับการเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้:
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
ในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะใช้วิธีการที่สอดคล้องกับกฎหมาย และจำเป็นเท่าที่จำเป็นต่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งรวมถึง:
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ สัญชาติ หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขผู้เสียภาษี หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขใบขับขี่ ลายเซ็น สถานภาพสมรส ตำแหน่งงาน อาชีพ วุฒิการศึกษา ประวัติการทำงาน หรือเอกสารทางราชการอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล บัญชีโซเชียลมีเดีย เอกสารทางราชการ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน ทะเบียนสมรส
- เอกสารทางราชการ เช่น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน ทะเบียนสมรส (ซึ่งอาจซ้ำกับข้อก่อนหน้าเพื่อเน้นย้ำความสำคัญ)
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น สำเนาบัญชีธนาคาร หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต หลักฐานการชำระเงิน รายการเดินบัญชีธนาคาร ข้อมูลวิธีการชำระเงิน ข้อมูลการชำระหนี้
- ข้อมูลที่ได้รับจากการเก็บรวบรวมโดยบริษัทหรือจากระบบอัตโนมัติของอุปกรณ์ของบริษัท เช่น ที่อยู่ IP, คุกกี้, พฤติกรรมการใช้บริการ, ประวัติการใช้งาน, ข้อมูลการสั่งซื้อ, เสียง, ภาพถ่าย, ภาพเคลื่อนไหว, ชื่อบัญชีโซเชียลมีเดีย, การสนทนา (แชท), ตำแหน่งที่อยู่ (geolocation) ฯลฯ
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญาหรือกฎหมาย หากท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นได้ บริษัทอาจไม่สามารถพิจารณาทำธุรกรรมหรือบริหารสัญญากับท่านได้ (ตามความเหมาะสม)
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเท่านั้น ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้:
- เพื่อปฏิบัติตามสัญญา ในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลกับบริษัท
- เพื่อคุ้มครองชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยต้องพิจารณาสิทธิของเจ้าของข้อมูล เช่น การป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่าย การปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก และผลประโยชน์โดยชอบธรรมอื่น ๆ ของเจ้าของข้อมูล
- เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา การวิจัย หรือสถิติ โดยมีมาตรการป้องกันสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลอย่างเหมาะสม
- เพื่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่มอบหมายให้บริษัทดำเนินการ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลเกี่ยวกับความพิการ ศาสนา ข้อมูลชีวมาตร (เช่น ลายนิ้วมือ ใบหน้า ฯลฯ) และจะขอความยินยอมจากท่านทุกครั้งก่อนการเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่ในกรณีต่อไปนี้:
- เพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- กิจกรรมที่ดำเนินการโดยมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรไม่แสวงหากำไร ที่มีวัตถุประสงค์ทางการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือแรงงาน เพื่อประโยชน์ของสมาชิก อดีตสมาชิก หรือผู้ที่มีการติดต่อสม่ำเสมอ โดยไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
- เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล
- เมื่อมีความจำเป็นในการจัดตั้ง ใช้ หรือป้องกันสิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
- เมื่อมีความจำเป็นในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ: การป้องกันทางการแพทย์, เวชศาสตร์ อาชีวอนามัย, การประเมินความสามารถในการทำงาน, การวินิจฉัยทางการแพทย์, การให้บริการด้านสุขภาพ, การจัดการด้านสุขภาพ, ระบบบริการสังคม, การปกป้องสาธารณสุข เช่น การป้องกันโรคติดต่อหรือโรคระบาด, การคุ้มครองแรงงาน, ประกันสังคม, ประกันสุขภาพแห่งชาติ, สิทธิการเข้ารับบริการสุขภาพ, ประกันอุบัติเหตุ, การคุ้มครองทางสังคม, การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ,ประโยชน์สาธารณะที่มีนัยสำคัญ
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลที่ท่านให้โดยตรงระหว่างการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การตอบแบบสอบถาม การสมัครรับจดหมายข่าว กิจกรรมทางการตลาด การโต้ตอบผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน การเข้า-ออกสถานที่ของบริษัท การเข้าร่วมการอบรม กิจกรรมจัดซื้อ การติดต่อสื่อสารทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างท่านกับบริษัท
- ข้อมูลจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น ญาติหรือสมาชิกในครอบครัว
- ข้อมูลจากระบบอัตโนมัติ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลจากแอปพลิเคชัน
- ข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ เช่น ข้อมูลสาธารณะ องค์กรพันธมิตร หน่วยงานภาครัฐ หรือบริษัทในเครือของบริษัท รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ผู้ใช้บริการเป็นผู้ให้
วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ได้แจ้งให้ท่านทราบในระหว่างหรือภายหลังการเก็บข้อมูล โดยได้รับความยินยอมจากท่าน:
- เพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูล หรือสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลที่สามเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล
- เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
- เพื่อให้ข้อมูลและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการ หรือการสื่อสารทางการตลาดผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้รับจากท่าน
- เพื่อประเมินและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของท่าน
- เพื่อจัดส่งสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของท่าน หรือเพื่อจัดการข้อร้องเรียนต่าง ๆ
- เพื่อออกใบรับรองผลการตรวจวัดสายตาให้แก่ท่าน
- เพื่อดำเนินธุรกิจ ประเมินผลการดำเนินงาน และปรับปรุงคุณภาพของสินค้าและบริการ
- เพื่อดำเนินกิจกรรมทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งเตือนและติดตามหนี้ การออกใบกำกับภาษี และการจัดเตรียมหลักฐานการทำธุรกรรมตามที่กฎหมายกำหนด
- เพื่อผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น การบันทึกข้อร้องเรียนผ่านระบบ Call Center การบันทึกภาพผ่านกล้องวงจรปิด การบันทึกการเข้า-ออกภายในบริษัท และการปฏิบัติตามระเบียบของบริษัท
- เพื่อการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
- เพื่อการสอบสวนและปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย กฎระเบียบ หรือภาระผูกพันทางกฎหมายของบริษัท
- เพื่อตอบสนองคำร้องขอของท่าน เช่น การให้บริการหลังการขาย การจัดการข้อร้องเรียน และการแก้ไขข้อมูล
- เพื่ออำนวยความสะดวก และเสนอโปรแกรมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการ
- เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การส่งเสริมการขาย และความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น สินค้าและบริการ โปรแกรมส่งเสริมการขาย และความร่วมมือทางธุรกิจ
- เพื่อสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด และการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติเพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาสินค้าและบริการใหม่
- เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง
การเปิดเผยและการโอนข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่จะได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีดังต่อไปนี้:
- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลกับคู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก เช่น:
- พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ร่วมธุรกิจ
- ตัวแทนหรือผู้ให้บริการที่ดำเนินงานในนามของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง ผู้ให้บริการจัดเก็บหรือทำลายเอกสาร ผู้รับจ้างดำเนินกิจกรรมทางการตลาด บริษัทโฆษณา ผู้พัฒนาและดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือภาษี เป็นต้น
- คู่ค้าทางธุรกิจ
- ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต บริษัทบัตรเดบิต เป็นต้น
- บริษัทจะทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายกำหนด และอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลกับหน่วยงานในเครือของบริษัท หรือภายในกลุ่มบริษัท แต่เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น
- เมื่อกฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูล ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานที่มีอำนาจในการร้องขอข้อมูล
การโอนหรือเปิดเผยข้อมูลไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจโอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยจะดำเนินการให้มั่นใจว่าประเทศหรือองค์กรปลายทางมีมาตรฐานและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอในการให้ความคุ้มครองที่เหมาะสม
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้จัดให้มีระบบและ/หรือเลือกใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยตามที่กฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้ โดยการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยพนักงาน เจ้าหน้าที่ และตัวแทนของบริษัทจะถูกจำกัดไว้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้งาน การเปิดเผย การทำลาย หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอื่น ๆ ที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไป เช่น การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย หรือการตรวจสอบข้อพิพาท ทั้งนี้บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในตอนแรก
การทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลได้ใช้สิทธิตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด บริษัทจะดำเนินการลบ/ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวตนได้ ตามรูปแบบและมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือมาตรฐานสากลกำหนด
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิ หรือการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้จนกว่าจะมีคำตัดสินหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้โดยจะแจ้งให้ทราบผ่านเว็บไซต์ aiaonebillionday.com พร้อมระบุวันที่มีการปรับปรุงล่าสุด ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นระยะ หากท่านยังคงใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทผ่านเว็บไซต์ ถือว่าท่านยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการแก้ไขแล้ว
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ ดังต่อไปนี้:
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่จะมีข้อจำกัดทางกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน การเพิกถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้านี้ และบริษัทได้ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
- สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตน เว้นแต่บริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือหากคำขอของท่านจะกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ครบถ้วน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยบริษัทอาจดำเนินการแก้ไขได้แม้ไม่มีคำขอจากท่าน
- สิทธิในการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้:
4.1 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปตามวัตถุประสงค์ที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
4..2 เมื่อท่านถอนความยินยอม และ บริษัทไม่มีฐานทางกฎหมายในการประมวลผลต่อ
4.3 เมื่อท่านคัดค้านการประมวลผล และบริษัทไม่มีเหตุผลทางกฎหมายเพียงพอในการปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจยังคงเก็บรักษาข้อมูลไว้ได้หากมีเหตุผลทางกฎหมายที่ชัดเจนในการปฏิเสธคำขอดังกล่าว
- สิทธิในการขอรับหรือขอโอนข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอรับหรือขอโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่สามารถอ่านได้และสามารถใช้งานหรือเปิดเผยได้โดยอัตโนมัติผ่านเครื่องมือหรืออุปกรณ์ เว้นแต่ไม่สามารถทำได้ทางเทคนิค หรือในกรณีที่เป็นประโยชน์สาธารณะ หรือเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิดังกล่าวจะกระทบต่อสิทธิของผู้อื่น
- สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.1 หากเป็นข้อมูลที่ประมวลผลภายใต้ฐานผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่บริษัทแสดงเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อใช้สิทธิหรือป้องกันการเรียกร้องทางกฎหมาย
6.2 หากเป็นการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดโดยตรง
6.3 หากเป็นการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่มีความจำเป็นต่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
- สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล:
7.1 ระหว่างที่บริษัทตรวจสอบคำขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน และไม่ทำให้เข้าใจผิด
7.2 เมื่อข้อมูลควรถูกลบหรือทำลาย
7.3 เมื่อข้อมูลไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ท่านต้องการเก็บไว้เพื่อใช้สิทธิทางกฎหมาย
7.4 ระหว่างที่บริษัทกำลังพิจารณาสิทธิในการปฏิเสธคำขอคัดค้านของท่าน
- สิทธิในการร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายฉบับดังกล่าว
หากท่านมีคำถาม ประสงค์จะแก้ไข หรือลบข้อมูล ขอใช้สิทธิ หรือประสงค์ติดต่อบริษัทเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาติดต่อที่ admin@youngsons.club